วันอังคารที่ ๙ มิถุนายน ๒๕๖๓ เวลา ๑๑.๑๕ นาฬิกา ณ ห้องแถลงข่าว
ชั้น ๑ อาคารรัฐสภา นายเทพไท เสนพงศ์ ประธานคณะอนุกรรมาธิการ
พิจารณาศึกษาหาแนวทางการแก้ไขปัญหาเกี่ยวกับการใช้กระท่อม อย่างเป็นระบบ ในคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาหาแนวทางการแก้ไข
ปัญหาเกี่ยวกับการใชกัญชา กัญชง และกระท่อมอย่างเป็นระบบ แถลงข่าว
ผลการประชุมคณะอนุกรรมาธิการว่า ที่ประชุมได้ตั้งข้อสังเกตถึงการกำหนดจุดนำร่อง
การปลูกและบริโภคพืชกระท่อมอย่างเสรีของสำนักงานคณะกรรมการป้องกัน
และปราบปรามยาเสพติด (ปปส.) จำนวน ๑๓๕ หมู่บ้านหรือชุมชน
ว่ายังไม่มีครอบคลุมพื้นที่ที่มีประชาชนบริโภคพืชกระท่อม และอาจทำให้เสียโอกาส จึงเสนอให้ขยายพื้นที่เพิ่มขึ้นเป็นระยะ ๆ ตามที่ ปปส. เห็นสมควร
นอกจากนี้ คณะอนุกรรมาธิการยังเห็นควรให้เพิ่มข้อกำหนดท้ายกฎหมาย
ก่อนจะมีการแก้ไขปลดพืชกระท่อมออกจากบัญชียาเสพติดให้โทษ
ประเภท ๕ และการแก้ไข พ.ร.บ. ยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. ๒๕๒๒ ดังนี้ ๑. อนุญาตให้แต่ละครอบครัวมีพืชกระท่อมไว้ในครอบครองไม่เกิน ๑ ต้น และจะต้องมีการติดQR CODE ทุกต้น ๒. การประกอบธุรกิจ ต้องทำในลักษณะวิสาหกิจชุมชน และต้องทำเรื่อง ขออนุญาตต่อรัฐบาล ๓. การปลูกเป็นพืชเศรษฐกิจ เพื่อประกอบเป็นยารักษาโรค หรือเครื่องดื่มชูกำลัง ต้องทำเรื่องขออนุญาตจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ๔. หากนำมาแปรรูปเป็นสารเสพติดจะถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย เว้นแต่นำมาต้มเพื่อบริโภค โดยไม่ผ่านการแปรรูปใด ๆ
ทั้งนี้ แม้ว่ากระทรวงยุติธรรมและกระทรวงสาธารณสุขได้ลงนามบันทึก ข้อตกลงว่าด้วยความร่วมมือในการดำเนินการเพื่อพิจารณายกเลิกพืชกัญชา และกระท่อมจากยาเสพติดให้โทษแล้วนั้น แต่ยังไม่ได้ดำเนินการแก้ไข ใน พ.ร.บ. ยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. ๒๕๒๒ ดังนั้น การบริโภคพืชกระท่อมยังถือว่า มีความผิดตามกฎหมาย โดยคณะ กมธ. จะนำร่าง พ.ร.บ. ยาเสพติดให้โทษ ฉบับแก้ไข เข้าสู่การพิจารณาในการประชุมสภาผู้แทนราษฎรให้ทันในสมัยนี้ |