โดย นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ กล่าวภายหลังรับหนังสือว่า การดำเนินการให้ความช่วยเหลือสถานการณ์ชายแดน สามารถดำเนินการได้โดยยึดหลักการสำคัญ คือ ไม่ผลักดันมนุษย์ด้วยกันกลับไปสู่ดินแดนที่อันตรายและการส่งปัจจัยสี่เพื่อดูแลผู้ที่ได้รับผลกระทบในรัฐใกล้เคียง โดยสภาผู้แทนราษฎรสามารถดำเนินการผ่านคณะ กมธ. การต่างประเทศ และการตั้งกระทู้ถามนายกรัฐมนตรีและ รมว. การต่างประเทศ ซึ่งตนได้พยายามตั้งกระทู้ถามหลายครั้ง แต่ยังไม่ได้รับคำตอบกลับมา อย่างไรก็ตามในฐานะพรรคร่วมฝ่ายค้านจะติดตามความคืบหน้าและพยายามผลักดันข้อเสนอแนะที่ภาคีเครือข่ายภาคประชาสังคมเสนอต่อรัฐบาลเพื่อให้เกิดเป็นรูปธรรมโดยเร็วที่สุด และที่ผ่านมาในฐานะ กมธ. วิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2565 ได้แสดงความเห็นคัดค้านการที่สำนักงานความร่วมมือพัฒนาเศรษฐกิจกับประเทศเพื่อนบ้าน (องค์การมหาชน) หรือ NEDA ตั้งโครงการและงบประมาณให้ความช่วยเหลือแก่ประเทศเมียนมา 5 โครงการ ท่ามกลางสถานการณ์ความไม่สงบในประเทศเมียนมานั้น เป็นการลงทุนที่สูญเสียงบประมาณไปโดยเปล่าประโยชน์

นอกจากนี้ สำหรับข้อเสนอแนะเรื่องการใช้กลไกคณะกรรมการพิจารณาคัดกรองผู้ได้รับความคุ้มครอง ตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยการคัดกรองคนต่างด้าวที่เข้ามาในราชอาณาจักรและไม่สามารถเดินทางกลับประเทศอันเป็นภูมิลำเนาได้ พ.ศ. 2562 เพื่อคัดกรองผู้ที่ต้องการความคุ้มครองเป็นการเฉพาะ นั้น พรรคก้าวไกลกำลังให้ทีมงานด้านกฎหมายดำเนินการศึกษา เพื่อยกระดับระเบียบดังกล่าวให้เป็นกฎหมาย อันจะเป็นการช่วยเหลือให้กลุ่มเปราะบางที่เป็นผู้ลี้ภัย อาทิ เด็ก สตรี ผู้พิการ ได้รับสิทธิการช่วยเหลือตามหลักมนุษยชนได้ในอนาคต