|
|
ห้องข่าว >> ภาพข่าว >> ภาพข่าวสภาผู้แทนราษฎร |
โฆษกคณะกรรมาธิการการตำรวจ แถลงข่าวถึงความคืบหน้ากรณีการสลายการชุมนุมที่สามแยกดินแดง
๏ฟฝัน๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ 15 ๏ฟฝ.๏ฟฝ. 2564
|
วันพุธที่ 15 กันยายน 2564 เวลา 12.10 นาฬิกา ณ ห้องแถลงข่าว ชั้น 1 อาคารรัฐสภา นายณัฏฐ์ชนน ศรีก่อเกื้อ โฆษกคณะกรรมาธิการการตำรวจ แถลงข่าวถึงความคืบหน้ากรณีการสลายการชุมนุมที่สามแยกดินแดง ซึ่งเมื่อวานนี้ (14 ก.ย. 64) ทางคณะ กมธ. ได้เดินทางไปร่วมประชุมกับผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ณ กองบัญชาการตำรวจนครบาล เพื่อติดตามกรณีเหตุการณ์รถยนต์ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติชนผู้ชุมนุมจนได้รับบาดเจ็บ บริเวณใต้ทางด่วนวิภาวดี ดินแดง เมื่อวันที่ 12 ก.ย. 64 รวมทั้งติดตามการดำเนินการของเจ้าหน้าที่ตำรวจในการควบคุมฝูงชนและสลายการชุมนุมสาธารณะในเหตุการณ์ดังกล่าว ซึ่งผลการประชุมปรากฏว่า การชุมนุมบริเวณแยกดินแดงซึ่งใช้ชื่อว่า กลุ่มทะลุแก๊ส นั้น ไม่ได้เป็นผู้ชุมนุม แต่ถือเป็นการก่อเหตุจลาจล เนื่องจากไม่มีแกนนำ อีกทั้งยังไม่มีข้อเรียกร้องและเป้าหมายทางการเมืองที่ชัดเจน นอกจากนี้ ยังมีการใช้กำลัง อุปกรณ์เทียมอาวุธ และอาวุธในการทำร้ายร่างกาย และสิ่งที่สำคัญ คือ มีกลุ่มเยาวชนหรือเด็กที่อายุไม่ถึง 18 ปี เข้าร่วมในกลุ่มนี้ด้วย โดยผู้ก่อเหตุจลาจลจะเดินทางมาจากเขตปริมณฑลใกล้กรุงเทพมหานคร อาทิ จ.นครปฐม จ.อยุธยา จ.ปทุมธานี และ จ.สมุทรปราการ ทั้งนี้ หากจะใช้คำว่าผู้ชุมนุมจึงไม่สามารถใช้ได้ 100% จึงขอใช้คำว่าผู้ก่อเหตุจลาจลแทน และจากเหตุการณ์ดังกล่าวมีเจ้าหน้าที่ตำรวจถูกระเบิดบริเวณใบหน้าจนบาดเจ็บสาหัส 1 นาย ทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติได้ดำเนินการเยียวยาเบื้องต้นเรียบร้อยแล้ว
สำหรับกรณีที่มีกลุ่มผู้ชุมนุมจุดไฟเผาซุ้มเฉลิมพระเกียรติบริเวณทางขึ้นทางด่วนดินแดง ขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทราบแล้วว่า กลุ่มผู้ก่อเหตุเป็นใคร โดยพบว่าเป็นกลุ่มเยาวชน ทั้งนี้ จะออกหมายจับและดำเนินการตามกระบวนการทางกฎหมายต่อไป ส่วนกรณีรถควบคุมผู้ต้องขังของเจ้าหน้าที่ตำรวจชนหนึ่งในผู้ชุมนุมของกลุ่มทะลุแก๊ส ประเด็นนี้มีความละเอียดอ่อนมาก ขณะนี้ทางคณะ กมธ. ได้แบ่งการพิจารณาออกเป็นหลายประเด็น โดยพบว่ารถควบคุมผู้ต้องขังคันนี้ไม่ได้อยู่ในขบวน แต่เป็นชุดสแตนด์บายเพื่อเดินทางกลับไปยังสถานีตำรวจ ทั้งนี้ ทาง กมธ. ได้พิจารณาอย่างละเอียดพบว่า ผู้ที่ได้รับบาดเจ็บได้กระโดดผ่านหน้าขณะที่รถวิ่ง และเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลราชวิถีจนปลอดภัยแล้ว ไม่ได้เสียชีวิตตามที่ปรากฏในสื่อโซเชียลมีเดีย โดยทางเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลได้สอบถามประวัติเพื่อบันทึกเป็นประวัติการรักษา แต่ผู้บาดเจ็บได้หลบหนีออกจากโรงพยาบาล อย่างไรก็ตาม ผู้ใดกระทำความผิดตามกฎหมายและฝ่าฝืน พ.ร.ก. ฉุกเฉิน จะถูกดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป ทั้งนี้ หากผู้ใดมีรายละเอียดหรือหลักฐานเพิ่มเติมในประเด็นดังกล่าวสามารถส่งมายังคณะ กมธ. การตำรวจเพื่อพิจารณาเพิ่มเติมได้ |
|
|
สงวนลิขสิทธิ์โดย สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ๑๑๑๑ ถ.สามเสน แขวงถนนนครไชยศรี เขตดุสิต กรุงเทพฯ ๑๐๓๐๐
Call Center ๑๗๔๓ โทรศัพท์ ๐ ๒๒๔๒ ๕๙๐๐ โทรสาร ๐ ๒๒๔๒ ๕๙๙๐
e-Mail : webmaster@parliament.go.th [ คลิกดูแผนที่]
|
|
|
|