|
|
ห้องข่าว >> ภาพข่าว >> ภาพข่าวสภาผู้แทนราษฎร |
สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเข้าร่วมสัมมนาออนไลน์ของสหภาพรัฐสภา หัวข้อ หลักประกันสุขภาพถ้วนหน้าและความเท่าเทียม"
๏ฟฝัน๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ 28 ๏ฟฝ.๏ฟฝ. 2564
|
เมื่อวันอังคารที่ 26 ต.ค. 64 เวลา 19.00 20.30 นาฬิกา (ตามเวลาประเทศไทย) น.ส.เพชรดาว โต๊ะมีนา สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ในฐานะสมาชิกคณะที่ปรึกษาด้านสาธารณสุขของสหภาพรัฐสภา ได้เข้าร่วมรับฟังการสัมมนาออนไลน์ (Webinar) เรื่อง หลักประกันสุขภาพถ้วนหน้าและความเท่าเทียมไปด้วยกันได้จริงหรือไม่ (Universal health coverage and equity: Always hand in hand?) การสัมมนาออนไลน์ครั้งนี้จัดขึ้น โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้เข้าใจความเชื่อมโยงระหว่างหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้ากับความเท่าเทียม ส่งเสริมการแลกเปลี่ยนยุทธศาสตร์ระหว่างรัฐสภาในการปรับปรุงความเท่าเทียมด้านสุขภาพผ่านหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้าและสิ่งท้าทายที่เกิดขึ้นในบริบทของการแพร่ระบาดของโควิด-19 รวมถึงการติดตามการนำข้อมติของสหภาพรัฐสภาเรื่องหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้าที่ได้รับการรับรองในปี 2562 ไปปฏิบัติให้บรรลุผล การสัมมนานี้มีผู้เข้าร่วมทั้งสิ้นจำนวน 64 คน จากรัฐสภาประเทศต่าง ๆ ทั่วโลก
การสัมมนาแบ่งออกเป็นสองช่วง ในช่วงแรกเป็นการพิจารณาความเท่าเทียมในการบรรลุหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า โดยผู้เชี่ยวชาญ ได้แก่ 1) Mr. David Clarke หัวหน้าทีมกฎหมายด้านหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้าและระบบสุขภาพ องค์การอนามัยโลก (WHO) และ 2) Ms. Ranjana Kumar หัวหน้าการวางแผนระบบสุขภาพ การจัดการและการดำเนินการ โครงการของประเทศ จากองค์กรพันธมิตรเพื่อวัคซีน (Gavi The Vaccine Alliance) ผู้เชี่ยวชาญจาก WHO มองว่า Equity หรือความเท่าเทียม เป็น การเดินทาง (Journey) ในการสร้างความมั่นใจว่าจะสามารถบรรลุหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า ด้วยแต่ละประเทศมีทรัพยากรด้านสาธารณสุขค่อนข้างจำกัด นอกจากนี้ หลายประเทศยังต้องเลือกตัดสินใจว่าจะทำการขยายบริการใดก่อน หลักประกันสุขภาพถ้วนหน้าจะครอบคลุมกลุ่มบุคคลใดบ้าง และจะเปลี่ยนจากการชำระเงินเป็นรายครั้งไปเป็นการชำระเงินล่วงหน้าได้อย่างไร เป็นต้น ความเท่าเทียมจะเป็นหลักการซึ่งเป็นแนวทางในการตัดสินใจโดยต้องคำนึงถึงความเป็นธรรม การเคารพสิทธิของปัจเจกชน การตัดสินใจที่เหมาะสมสามารถเกิดขึ้นโดยใช้ความสามารถในการตรวจสอบการทำงานของรัฐและกลไกการมีส่วนร่วมซึ่งกลไกที่ว่านี้อาจทำในรูปของสถาบันเช่นคณะกรรมาธิการสามัญ นอกจากนี้ การติดตามและประเมินผลที่เข้มแข็งก็จะช่วยให้บรรลุหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้าได้อย่างมีประสิทธิผล ส่วนผู้เชี่ยวชาญจาก GAVI ได้กล่าวถึง Zero-dose children หรือเด็กที่ยังไม่ได้รับวัคซีนมาตรฐาน จำนวน 2 ใน 3 ของเด็กที่ยังไม่ได้รับวัคซีนมาตรฐานอาศัยอยู่ในครอบครัวที่มีรายได้น้อยกว่า 1.90 เหรียญสหรัฐต่อวัน และจำนวน 1 ใน 8 ของเด็กในประเทศที่ GAVI สนับสนุนอยู่เป็นเด็กที่ยังไม่ได้รับวัคซีนมาตรฐาน โดยเกือบครึ่งของจำนวนนี้ต้องเสียชีวิตจากโรคที่มีวัคซีนป้องกันได้ การสนับสนุนด้านการเงินภายในประเทศเพื่อสร้างภูมิคุ้มกัน เช่น ปี 2561 ไนจีเรีย มีการจัดสรรงบประมาณร้อยละ 4.5 ของงบประมาณทั้งหมดของรัฐให้กับด้านการสาธารณสุข และจะจัดเพิ่มเป็นร้อยละ 10 ในปี 2571 เป็นต้น นอกจากนี้ ผู้เชี่ยวชาญจาก GAVI ยังได้แสดงความเห็นในบริบทของการระบาดของโควิด-19 ว่าการระบาดใหญ่ทำให้เห็นความสำคัญของวัคซีนมากยิ่งขึ้น และเป็นการตอกย้ำว่าการฉีดวัคซีนมีความสำคัญอย่างมาก
สำหรับการสัมมนาช่วงที่ 2 เป็นการอภิปรายถึงประสบการณ์ของประเทศในการกำหนดยุทธศาสตร์เพื่อปรับปรุงเรื่องความเท่าเทียมด้านสุขภาพ และผลของการระบาดของโควิด-19 ที่มีต่อความเท่าเทียมทางสุขภาพ โดยผู้อภิปรายส่วนใหญ่มาจากประเทศในภูมิภาคแอฟริกา เช่น สาธารณรัฐประชาธิปไตยคองโกและเบนิน ที่ยังคงประสบปัญหาการเข้าถึงวัคซีนป้องกันโควิด-19 โดยมองว่าไม่มีความเท่าเทียมในโลกจริง คนที่ได้รับวัคซีนมีจำนวนน้อย อีกทั้งเด็กที่อายุต่ำกว่า 18 ปี ก็ยังไม่ได้รับวัคซีนซึ่งเด็กเหล่านี้จะต้องไปโรงเรียน นอกจากโควิด-19 แล้ว สิ่งที่เป็นข้อห่วงกังวลสำคัญในภูมิภาคแอฟริกาคือการจัดการกับโรคมาลาเรียซึ่งสามารถทำได้โดยการสร้างความเท่าเทียมในหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า ส่วนผู้แทนจากซีเรียกล่าวว่าในซีเรียมีปัญหาที่แตกต่างออกไปเนื่องจากมีสงครามในประเทศ อย่างไรก็ดีขณะนี้กำลังจะมีกฎหมายในการปกป้องคุ้มครองการให้บริการด้านการแพทย์ ด้วยเหตุที่มีสงครามในประเทศจึงเกิดวิกฤตการณ์ทางเศรษฐกิจอันนำมาซึ่งปัญหาใหญ่ในด้านสาธารณสุข ซีเรียต้องการความช่วยเหลือในเรื่องนี้ ส่วนบาห์เรนนั้นเป็นประเทศที่ประสบผลสำเร็จในเรื่องหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้าเป็นอย่างดี เหตุที่สามารถบรรลุได้ก็เพราะความร่วมมือที่แข็งแกร่งระหว่างรัฐบาลกับรัฐสภา และผู้แทนจากแอลจีเรีย แสดงความเห็นว่าแอลจีเรียเป็นประเทศหนึ่งที่เคารพความเท่าเทียมโดยบัญญัติให้มีการลดความเหลื่อมล้ำไว้ในรัฐธรรมนูญ จะต้องไม่มีใครถูกทิ้งไว้ข้างหลัง การบรรลุเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs) จะขับเคลื่อนด้วยการใช้กฎหมาย นอกจากนี้ แอลจีเรียยังให้ความสำคัญในเรื่องวัคซีนป้องกันโควิด-19 โดยคำนึงถึงกลุ่มผู้ด้อยโอกาสในสังคมเป็นลำดับแรก
เครดิตภาพและข่าว : กลุ่มงานสหภาพรัฐสภา สำนักองค์การรัฐสภาระหว่างประเทศ สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร
|
|
|
สงวนลิขสิทธิ์โดย สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ๑๑๑๑ ถ.สามเสน แขวงถนนนครไชยศรี เขตดุสิต กรุงเทพฯ ๑๐๓๐๐
Call Center ๑๗๔๓ โทรศัพท์ ๐ ๒๒๔๒ ๕๙๐๐ โทรสาร ๐ ๒๒๔๒ ๕๙๙๐
e-Mail : webmaster@parliament.go.th [ คลิกดูแผนที่]
|
|
|
|