|
|
ห้องข่าว >> ภาพข่าว >> ภาพข่าวสภาผู้แทนราษฎร |
รองประธานคณะกรรมาธิการแก้ไขปัญหาหนี้สินแห่งชาติ คนที่สาม และคณะ รับยื่นข้อเรียกร้องจากนางสาวรณิดา อัศวปราการกุล และคณะ เพื่อหาทางช่วยเหลืออดีตพนักงานและพนักงานบริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) กรณีกรรมการสหกรณ์ออมทรัพย์ออกหนังสือยกเลิกความเป็นสมาชิกของสหกรณ์โดยไม่ตรงกับข้อบังคับสหกรณ์ และมิได้เร่งรีบเปิดประชุมใหญ่ตามระยะเวลาทำให้สมาชิกเดือดร้อน
๏ฟฝัน๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ 3 ๏ฟฝ.๏ฟฝ. 2565
|
วันพฤหัสบดีที่ 3 กุมภาพันธ์ 2565 เวลา 11.00 นาฬิกา ณ จุดรับยื่นหนังสือ ชั้น 1 (โซนกลาง) อาคารรัฐสภา นายองค์การ ชัยบุตร รองประธานคณะกรรมาธิการแก้ไขปัญหาหนี้สินแห่งชาติ คนที่สาม และคณะ รับยื่นข้อเรียกร้องจากนางสาวรณิดา อัศวปราการกุล และคณะ เพื่อหาทางช่วยเหลืออดีตพนักงานและพนักงานบริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) กรณีกรรมการสหกรณ์ออมทรัพย์ออกหนังสือยกเลิกความเป็นสมาชิกของสหกรณ์โดยไม่ตรงกับข้อบังคับสหกรณ์ และมิได้เร่งรีบเปิดประชุมใหญ่ตามระยะเวลาทำให้สมาชิกเดือดร้อน ด้วย อดีตพนักงาน และพนักงานบริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) ได้รวมตัวกันในกลุ่ม "ร่วมกันพิทักษ์สิทธิฌาปนกิจการบินไทย" มีสมาชิกไม่ต่ำกว่า 1,090 คน ได้รับความเดือดร้อนอย่างแสนสาหัสกับการกระทำอันเข้าข่ายไม่ชอบด้วยกฎหมายของคณะกรรมการเร่งรัดหนี้สิน และคณะกรรมการดำเนินการของสหกรณ์ เมื่อวันที่ 26 มกราคม 2565 ได้มีหนังสือออกคำสั่งปลดสมาชิกสหกรณ์ จำนวน 1,362 คน ซึ่งสมาชิกจำนวนดังกล่าว คือกลุ่มบุคคลที่ถูกเลิกจ้างจากบริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) โดยไม่มีความผิด เนื่องจากไม่เข้าร่วม Relaunch สู่โครงสร้างใหม่ขององค์กร แต่ไม่ได้รับการอธิบายจากบริษัทฯ ว่าหากไม่เลือกจะถูกเลิกจ้าง จำนวน 508 คน และกลุ่มคนที่เข้าร่วม Relaunch สู่โครงสร้างใหม่ขององค์กร แต่ไม่ถูกรับเลือกและถูกเลิกจ้างโดยไม่มีความผิด จำนวน 854 คน รวมทั้งสิ้น 1,362 คน ซึ่งอดีตพนักงานดังกล่าวเป็นสมาชิกสหกรณ์ออมทรัพย์พนักงานบริษัทการบินไทย และกลุ่มบุคคลเหล่านี้เป็นผู้ถูกเลิกจ้างที่ไม่ได้รับค่าชดเชย 400 วัน หรือตามอายุงาน เพราะบริษัทโอนเงินค่าชดเชย 400 วัน ให้กับสหกรณ์ออมทรัพย์พนักงานบริษัทการบินไทย จำกัด (มหาชน) ไปทั้งหมด สมาชิกส่วนหนึ่งได้ฟ้องร้องเป็นคดีต่อศาลแรงงานกลาง วัตถุประสงค์ของค่าชดเชย มาตรา 5 ตาม พ.ร.บ.แรงงาน หมายถึง เงินที่นายจ้างจ่ายให้แก่ลูกจ้างเมื่อเลิกจ้าง นอกเหนือไปจากเงินประเภทอื่น ซึ่งนายจ้างตกลงจ่ายให้แก่ลูกจ้าง ตลอดระยะเวลาที่ตกงานพนักงานยังคงชำระหนี้ให้แก่สหกรณ์เรื่อยมาแม้เป็นผู้ตกงาน ซึ่งตามข้อบังคับสหกรณ์ มีข้อกำหนดว่า "ถ้าสมาชิกผิดนัดชำระหนี้และมิได้นำเงินมาชำระภายในงวดต่อไปมากกว่า 1 ครั้งไม่ว่าต้นเงินหรือดอกเบี้ยปีใด มิให้ได้รับเฉลี่ยคืน จากข้อบังคับดังกล่าว สมาชิกยังคงส่งต้นเงินเรื่อยมา แต่เนื่องจากตกงานและสถานการณ์ COVID-19 จึงส่งเงินน้อยลงตามนโยบายสหกรณ์ ซึ่งเมื่อมีการร้องเรียนไปยังกรมส่งเสริมสหกรณ์พื้นที่ 2 แต่ก็ไม่มีความคืบหน้าแต่ประการใดในการปรับโครงสร้างหนี้ดังกล่าว การกระทำดังกล่าวตามมติที่ประชุมคณะกรรมการดำเนินการสหกรณ์ออมทรัพย์พนักงานบริษัทการบินไทย จำกัด ชุดที่ 45 ในการประชุมครั้งที่ /2565 (นัดพิเศษ) วันที่ 13 มกราคม 2565 ให้มีการออกหนังสือให้ขาดจากความเป็นสมาชิก ทั้งสิ้น 1,362 คน ซึ่งเป็นมติเสียงข้างมากของคณะกรรมการสหกรณ์ ซึ่งถือว่า เป็นสิ่งที่อาจจะก่อให้เกิดความเสียหายร้ายแรงต่อสหกรณ์ กล่าวคือ เมื่อขาดจากความเป็นสมาชิก ผู้กู้อาจจะไม่ส่งเงินเพื่อชำระหนี้ ให้กับสหกรณ์ และผู้ค้ำประกันที่ยังคงทำงานอยู่กับบริษัทจะโดนภาระผู้ค้ำและจะโดนหักเงินเดือนทันที ก่อให้เกิดหนี้สูญในระดับมหภาค จึงขอความอนุเคราะห์มายังคณะกรรมาธิการช่วยพิจารณาหาแนวทางการแก้ปัญหาดังกล่าว โดยเรียกผู้แทนเจรจาจากสหกรณ์มาชี้แจง และผู้แทนเจรจาสมาชิกที่ได้รับความเดือดร้อนหารือร่วมกัน เพื่อหาแนวทางแก้ไข และมีมติให้กรรมการสหกรณ์ฯ ยกเลิกคำสั่งและปรับโครงสร้างหนี้ และให้โอกาสผู้ตกงานได้นำเงินไปชำระหนี้เพื่อมิให้เกิดปัญหาต่อผู้ค้ำประกันในภายหน้า เพราะสหกรณ์ แก่อำนาจยึดเงินค่าชดเชยพนักงานไปทั้งหมด จนทำให้สมาชิกเดือดร้อนตกงานไม่มีเงินยังชีพ และขอให้หาแนวทางคืนเงินค่าชดเชยกับพนักงานและทำข้อตกลงในการชำระหนี้ในแต่ละเดือน เพื่อให้สมาชิกมีเงินทำทุนประกอบอาชีพ หรือมีมาตรการเพื่อหาทางออกให้กับสมาชิกที่ถูกให้ออกโดยไม่มีความผิด นอกจากนี้ การเปิดประชุมใหญ่ประจำปีฯ ภายในเดือนกุมภาพันธ์มีนัยยะว่าจะมีการยื้อถึงเดือนพฤษภาคม ซึ่งจนถึงขณะนี้ยังไม่มีการตั้งผู้สอบบัญชี จึงเห็นควรให้มีการเร่งเปิดประชุมใหญ่วิสามัญโดยเร็ว ตลอดจนขอให้ตรวจสอบมติกรรมการในการจัดซื้อที่ดินเพื่อสร้างที่ทำการสหกรณ์แห่งใหม่ เพราะเดิมรายได้ส่วนการเช่าซื้อจะมีแก่การบินไทย และการรีบเร่งดำเนินการจัดซื้อที่ดินในขณะที่รีบทำการปลดสมาชิกนั้น มีวาระซ่อนเร้นหรือไม่
นายองค์การ ชัยบุตร กล่าวภายหลังรับยื่นหนังสือว่า ทางคณะกรรมาธิการจะเชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาร่วมประชุม เพื่อให้ข้อมูลข้อเท็จจริงเพิ่มเติม และหาแนวทางในการแก้ไขปัญหาให้แก่พี่น้องประชาชนต่อไป ทั้งนี้ ทางคณะกรรมาธิการยินดีให้ความช่วยเหลือพี่น้องประชาชนอย่างเต็มความสามารถ
|
|
|
สงวนลิขสิทธิ์โดย สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ๑๑๑๑ ถ.สามเสน แขวงถนนนครไชยศรี เขตดุสิต กรุงเทพฯ ๑๐๓๐๐
Call Center ๑๗๔๓ โทรศัพท์ ๐ ๒๒๔๒ ๕๙๐๐ โทรสาร ๐ ๒๒๔๒ ๕๙๙๐
e-Mail : webmaster@parliament.go.th [ คลิกดูแผนที่]
|
|
|
|