วันศุกร์ที่ 18 กุมภาพันธ์ 2565 เวลา 11.15 นาฬิกา ณ ห้องแถลงข่าว ชั้น 1 อาคารรัฐสภา นายณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์ ประธานคณะ กมธ.การเมือง การสื่อสารมวลชนและการมีส่วนร่วมของประชาชน พร้อมด้วย นายปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานคณะ กมธ. คนที่สอง และ น.ส.สุทธวรรณ สุบรรณ ณ อยุธยา โฆษกคณะ กมธ. แถลงข่าวผลการประชุมคณะกรรมาธิการฯ เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 17 กุมภาพันธ์ 2565 ซึ่งที่ประชุมได้มีการพิจารณาศึกษาร่างพระราชบัญญัติการดำเนินกิจกรรมขององค์กรไม่แสวงหากำไร พ.ศ. .
ที่ผ่านการพิจารณาของคณะกรรมการกฤษฎีกา (คณะที่ 2) สืบเนื่องจากการประชุมคณะกรรมาธิการที่ผ่านมา มีข้อห่วงใยเกี่ยวกับสิทธิมนุษยชนในร่างพระราชบัญญัติว่าด้วยการดำเนินกิจกรรมองค์กรไม่แสวงหารายได้หรือกำไรมาแบ่งปันกัน พ.ศ. .... เกี่ยวกับหลักการและสาระสำคัญทางคณะกรรมาธิการฯ จึงได้เชิญผู้แทน จากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาเข้าร่วมประชุม ซึ่งร่างกฎหมายดังกล่าวอยู่ระหว่างการรับฟังความคิดเห็นของภาคประชาสังคมต่าง ๆ โดยกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ซึ่งจะนำความเห็นข้อกังวลและข้อห่วงใยของทุกภาคส่วนมาวิเคราะห์เพื่อเสนอความเห็นต่อคณะรัฐมนตรีเพื่อให้มีการปรับปรุงร่างกฎหมายให้มีความสมบูรณ์และเกิดประโยชน์ต่อทุกภาคส่วน โดยมีความเห็นเพิ่มเติมจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ดังนี้ 1. ผู้แทนกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ให้ความเห็นว่า ร่างกฎหมายฉบับดังกล่าวนี้ มีหลักการสำคัญในการส่งเสริมและสนับสนุนภาคประชาสังคมในองค์กรต่าง ๆ ให้มีความเข้มแข็ง ซึ่งอยู่ระหว่าง การปรับปรุงแก้ไข 2. ผู้แทนกระทรวงการต่างประเทศให้ความเห็นเกี่ยวกับร่างพระราชบัญญัติการดำเนินกิจกรรมขององค์กรไม่แสวงหากำไร พ.ศ. .... โดยได้ส่งความเห็นต่อร่างพระราชบัญญัติฯ ซึ่งเป็นข้อมูลที่ผู้แทนจากประเทศต่างๆได้เสนอข้อห่วงใยและข้อกังวลเพื่อประกอบการพิจารณา 3. ผู้แทนสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาให้ความเห็นในการพิจารณาปรับปรุงในการจัดทำร่างกฎหมายโดยได้นำความเห็นของคณะกรรมการการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ป.ป.ง.) มาประกอบการพิจารณาเกี่ยวกับการติดตามตรวจสอบการฟอกเงินขององค์การระหว่างประเทศกับองค์กรภาคประชาสังคมภายในประเทศซึ่งเป็นเรื่องเกี่ยวกับความมั่นคงจึงทำให้ร่างกฎหมายฉบับนี้มีการเพิ่มกระบวนการติดตามตรวจสอบการดำเนินงานขององค์กรภาคประชาสังคม 4. ผู้แทนองค์กรภาคประชาสังคม อยู่ระหว่างการรวบรวมความคิดและประเด็นสำคัญเพื่อเสนอต่อกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์โดยในภาพรวมมีความกังวลว่ายังไม่มีความจำเป็นที่จะต้องออกกฎหมายมากำกับดูแลและควบคุมองค์กรภาคประชาสังคมเนื่องจากมีกฎหมายอื่นซึ่งใช้ในการควบคุมดูแลอยู่แล้ว
อย่างไรก็ตาม คณะกรรมาธิการฯ มีความคิดเห็นว่า การจัดทำร่างพระราชบัญญัตินี้ควรจะต้องมีการรับฟังข้อมูลข้อเท็จจริงจากทุกภาคส่วนอย่างรอบด้านเพื่อนำมาประกอบการจัดทำกฎหมายเพื่อสร้างความสมดุลย์ระหว่างภาคส่วนต่างๆอย่างรอบด้านทั้งด้านความมั่นคงด้านความสัมพันธ์ระหว่างประเทศด้านสิทธิเสรีภาพของประชาชนเป็นต้นดังนั้นคณะกรรมการจะได้มอบหมายให้คณะทำงานศึกษาแนวนโยบายและกฎหมายภาครัฐที่เปิดโอกาสให้ประชาชนมีส่วนร่วมดำเนินการรวบรวมข้อมูลและจัดทำความเห็นเสนอต่อคณะกรรมาธิการเพื่อเป็นข้อมูลในการพิจารณาศึกษาข้อดีข้อเสียต่างๆหากรัฐบาลเสนอกฎหมายดังกล่าวนี้เข้าสู่สภาในชั้นรับหลักการเพื่อใช้เป็นข้อมูลประกอบการอภิปรายคัดค้านหรือให้ข้อเสนอแนะต่อร่างพระราชบัญญัตินี้เพื่อให้สอดคล้องกับรัฐธรรมนูญฯ โดยเฉพาะมาตรา 77 ความจำเป็นในการให้มีกฎหมายและกติกาสากลระหว่างประเทศในการออกกฎหมายให้เป็นที่ยอมรับต่อไป
|