|
|
ห้องข่าว >> ภาพข่าว >> ภาพข่าวสภาผู้แทนราษฎร |
นายชวลิต วิชยสุทธิ์ รองประธานคณะ กมธ.การกฎหมาย การยุติธรรมและสิทธิมนุษยชน และคณะ แถลงข่าวผลการประชุมของคณะ กมธ.
๏ฟฝัน๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ 15 ๏ฟฝ๏ฟฝ.๏ฟฝ. 2565
|
วันพุธที่ 15 มิถุนายน 2565 เวลา 11.45 นาฬิกา ณ ห้องแถลงข่าว ชั้น 1 อาคารรัฐสภา นายชวลิต วิชยสุทธิ์ รองประธานคณะ กมธ.การกฎหมาย การยุติธรรมและสิทธิมนุษยชน และคณะ แถลงข่าวผลการประชุมของคณะ กมธ. ในวันนี้ เพื่อพิจารณาเกี่ยวกับการลบประวัติอาชญากรรมที่มีความสำคัญกับชีวิตความเป็นอยู่ของพี่น้องประชาชน โดยเฉพาะเรื่องของการประกอบอาชีพ และการได้กลับมาได้รับการฟื้นฟูทางสังคม ซึ่งภาครัฐต้องให้ความดูแลคุ้มครองด้วย โดยในวันนี้ คณะ กมธ. ได้เชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กระทรวงยุติธรรม สำนักงานอัยการสูงสุด สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา ผู้แทนกระทรวงมหาดไทย และนักวิชาการที่มีความสนใจศึกษาทางด้านนี้ มาให้ความเห็นต่อที่ประชุม ซึ่งในเบื้องต้นผู้แทนสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้ชี้แจงว่า จากการรวบรวมประวัติอาชญากรรมขณะนี้มีแจ้งมาประมาณ 12 ล้านรายการ ลงทะเบียนไปแล้วประมาณ 11 ล้านรายการ ซึ่งคาดว่ามีคดีที่อัยการสั่งเด็ดขาดไม่ฟ้อง คดีที่ศาลไม่รับฟ้อง และคดีที่ศาลสั่งยกฟ้อง ประมาณ 150,000 คดี ทั้งนี้ คณะ กมธ. เห็นว่าคดีดังกล่าวควรได้รับการลบประวัติออกไปให้หมด ซึ่งเจ้าหน้าที่คาดว่าจะใช้เวลาในการดำเนินการได้แล้วเสร็จประมาณสิ้นเดือน ก.ย. 65 สำหรับกรณีผู้ที่เคยต้องโทษและพ้นโทษออกมาแล้ว ทางกระทรวงยุติธรรมได้มีการร่าง พ.ร.บ.ประวัติอาชญากรรม พ.ศ. .... ซึ่งดำเนินการเสร็จเรียบร้อยแล้ว โดยได้มีการรับฟังความคิดเห็นจากประชาชนด้วย และขั้นตอนต่อจากนี้จะเสนอต่อคณะรัฐมนตรี เพื่อพิจารณาส่งต่อไปยังสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา ดำเนินการต่อไป ซึ่งกฎหมายฉบับนี้มีเป้าหมายให้ผู้ที่เคยกระทำความผิดมีที่ยืนในสังคม โดยเฉพาะผู้ที่เคยพ้นโทษและปัจจุบันได้กลับตัวเป็นคนดีแล้วให้สามารถใช้ชีวิตได้อย่างบุคคลทั่วไป ซึ่งในคดีบางคดีอาจต้องปกปิดไม่เปิดเผยข้อมูลต่อสาธารณะ แต่หากคดีมีความร้ายแรงก็ต้องเปิดเผยข้อมูลเพื่อเป็นการคุ้มครองสังคมด้วย ทั้งนี้ ในการบริหารข้อมูลนั้น แต่เดิมอาจมีเพียงสำนักงานตำรวจแห่งชาติเท่านั้น แต่หากกฎหมายฉบับนี้มีผลบังคับใช้แล้วจะต้องมีฐานข้อมูลประวัติอาชญากรรมที่กระทรวงยุติธรรมด้วย โดยเป็นคดีที่ศาลมีคำพิพากษาถึงที่สุดว่าผู้ต้องหาหรือผู้กระทำความผิดนั้นได้ทำผิดจริง ดังนั้น คดีที่อัยการมีคำสั่งไม่ฟ้อง คดีที่จบก่อนที่ศาลจะพิพากษา และคดีที่ศาลยกฟ้องก็จะไม่เข้าสู่ฐานข้อมูลนี้อีกต่อไป ซึ่งจะทำให้พี่น้องประชาชนที่เคยกระทำผิดพลาดได้มีโอกาสกลับคืนสู่สังคมได้อย่างมีประสิทธิภาพ |
|
|
สงวนลิขสิทธิ์โดย สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ๑๑๑๑ ถ.สามเสน แขวงถนนนครไชยศรี เขตดุสิต กรุงเทพฯ ๑๐๓๐๐
Call Center ๑๗๔๓ โทรศัพท์ ๐ ๒๒๔๒ ๕๙๐๐ โทรสาร ๐ ๒๒๔๒ ๕๙๙๐
e-Mail : webmaster@parliament.go.th [ คลิกดูแผนที่]
|
|
|
|