|
|
|
|
|
|
|
ห้องข่าว >> ภาพข่าว >> ภาพข่าวสภาผู้แทนราษฎร  |
นายสมเกียรติ ไชยวิสุทธิกุล ประธานคณะอนุกรรมาธิการพิจารณาโครงสร้างราคาพลังงานที่มีผลกระทบต่อราคาสินค้า ในคณะกรรมาธิการการพาณิชย์และทรัพย์สินทางปัญญา แถลงข่าวผลการประชุมของคณะ อนุกมธ. ๏ฟฝัน๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ 8 ๏ฟฝ.๏ฟฝ. 2565 |
|
|
|
วันพฤหัสบดีที่ 8 กันยายน 2565 เวลา 15.15 นาฬิกา ณ ห้องแถลงข่าว ชั้น 1 อาคารรัฐสภา นายสมเกียรติ ไชยวิสุทธิกุล ประธานคณะอนุกรรมาธิการพิจารณาโครงสร้างราคาพลังงานที่มีผลกระทบต่อราคาสินค้า ในคณะกรรมาธิการการพาณิชย์และทรัพย์สินทางปัญญา แถลงข่าวผลการประชุมของคณะ อนุกมธ.ว่า ในวันนี้ (8 ก.ย. 65) มีพิจารณาศึกษาการบริหารจัดการด้านพลังงานไฟฟ้า โดยเชิญผู้แทนจากการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคและการไฟฟ้านครหลวง มาให้ข้อมูลเกี่ยวกับราคาน้ำมันว่าปัจจุบันน้ำมันมีค่าการกลั่นที่สูงผิดปกติซึ่งหากพิจารณาค่าการกลั่นตามข้อเท็จจริงจะเห็นว่าปี 2563 ค่าการกลั่นอยู่ที่ 70 สตางค์ต่อลิตรปี 2564 อยู่ที่ประมาณ 89 สตางค์ต่อลิตรแต่ในปี 2565 กลางเดือนมิถุนายน ค่าการกลั่นน้ำมันพุ่งสูงถึงประมาณ 8 บาทต่อลิตร ข้อมูลจากเว็บไชต์ปตท. ทำให้คนไทยใช้น้ำมันแพงจากการที่รัฐไม่มีมาตรการหรือเงื่อนไขในการควบคุมเพดานค่าการกลั่นแต่อย่างใดสิ่งเหล่านี้ส่งผลให้ราคาน้ำมันมีราคาแพงเป็นอย่างยิ่งเป็นต้นเหตุของการขึ้นราคาสินค้าทุกประเภท คณะอนุ กมธ.ยังไม่ได้คำตอบจากโรงกลั่น ดังนั้น คณะอนุ กมธ.เห็นว่าน้ำมันเป็นสินค้า commodity และ necessity เหตุใดรัฐไม่มีการควบคุมเพดานค่าการกลั่น ปัญหาที่พบของประเด็นน้ำมันไบโอดีเซลคือราคาน้ำมันปาล์มของไทยที่มีราคาสูงกว่าราคาน้ำมันปาล์มในตลาดโลกซึ่งถือว่าไม่มีความเหมาะสมเช่นเดียวกับกรณีน้ำมันผสมครั้งนี้ได้แสดงความเห็นว่าทั้งกรณีก๊าซธรรมชาติและน้ำมันภายในประเทศล้วนมีแต่ผู้แสวงหาผลกำไรแทบทั้งสิ้นและขาดหน่วยงานที่เข้าไปกำกับดูแลอย่างจริงจัง ส่วนค่าไฟฟ้านั้น ตามข้อมูลปี 2564 การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) มีโรงไฟฟ้าที่ผลิตไฟฟ้าได้เพียงร้อยละ 29 ของการผลิตทั้งหมด จึงเป็นการตั้งคำถามว่าปัจจุบันประเทศไทยมีความมั่นคงในการผลิตไฟฟ้าหรือไม่ ทำให้ขาดอำนาจในการถ่วงดุลเรื่องราคาค่าไฟฟ้า เพราะที่เหลือเป็นการผลิตโดยภาคเอกชน และนำเข้าจากสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาวเป็นส่วนใหญ่ ประมาณร้อยละ 70 ดังนั้น ค่าไฟแพงเพราะ "ค่าความพร้อมจ่าย" Take or Pay ประมาณเดือนละ 2,567 ล้านบาท โรงไฟฟ้าไม่ได้ทำการผลิตไฟฟ้า จำนวน 7 โรง จากจำนวน 12 โรง จึงขอให้รัฐบาลเจรจาผู้ผลิตไฟฟ้าเอกชน เพราะฉะนั้น การจะลดค่าไฟฟ้าลงได้ รัฐบาลก็จำเป็นจะต้องเจรจากับผู้ผลิตไฟฟ้าเอกชน ทั้งในประเทศไทย และต่างประเทศให้ยอมลดค่าความพร้อมจ่ายลงมา เพื่อที่จะลดค่าไฟฟ้าซึ่งเป็นต้นทุนที่ประชาชนต้องมาแบกรับภาระหรือไม่ รัฐบาลสามารถไปเจรจาให้เอกชนนำกำไรมาเข้ากองทุนได้หรือไม่เพื่อนำมาลด ค่า FT ต่อไป |
|
|
วีดิทัศน์
|
|
สงวนลิขสิทธิ์โดย สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ๑๑๑๑ ถ.สามเสน แขวงถนนนครไชยศรี เขตดุสิต กรุงเทพฯ ๑๐๓๐๐ Call Center ๑๗๔๓ โทรศัพท์ ๐ ๒๒๔๒ ๕๙๐๐ โทรสาร ๐ ๒๒๔๒ ๕๙๙๐ e-Mail : webmaster@parliament.go.th [คลิกดูแผนที่]
|
|
