|
|
ห้องข่าว >> ภาพข่าว >> ภาพข่าวสภาผู้แทนราษฎร |
นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ ส.ส. พรรคไทยศรีวิไลย์ และคณะ แถลงข่าว
๏ฟฝัน๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ 24 ๏ฟฝ.๏ฟฝ. 2565
|
วันพฤหัสบดีที่ 24 พฤศจิกายน 2565 เวลา 13.30 นาฬิกา ณ ห้องแถลงข่าว ชั้น 1 อาคารรัฐสภา นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ ส.ส. พรรคไทยศรีวิไลย์ และคณะ แถลงข่าว 2 ประเด็น ดังนี้ 1. ตนและส.ส. 19 คน ได้เข้าชื่อเพื่อเสนอแก้ไขพระราชบัญญัติจราจรทางบก พ.ศ.... โดยยกเลิกส่วนแบ่งค่าเบี้ยปรับจราจร เนื่องด้วย พรบ.จราจรทางบก พ.ศ.2565 (ฉบับที่ 13) ที่ออกมาแล้ว ทำให้ประชาชนได้รับความเดือดร้อนมาก เพราะค่าเบี้ยปรับที่เรียกเก็บจำนวนสูง มีการตั้งด่านตรวจจำนวนมากขึ้น เพราะ ตำรวจผู้ทำการจับกุมจะได้ส่วนแบ่งจากค่าเบี้ยปรับจราจรจำนวนถึงร้อยละ 45 ส่งเข้าหน่วยงานท้องถิ่น ร้อยละ 50 ส่งเข้าหน่วยงานส่วนกลางร้อยละ 5 และมีการเพิ่มอัตราโทษปรับที่สูงขึ้น อาทิ (1.)ขับรถเร็วเกินกำหนด ขับรถฝ่าฝืนสัญญาณไฟจราจร ไม่หยุดรถให้คนข้ามทางม้าลาย ปรับไม่เกินจำนวน 4,000 บาท ซึ่งโทษเดิม ปรับไม่เกิน จำนวน 1,000 บาท (2.)ขับรถย้อนศร ไม่สวมหมวกนิรภัย ไม่รัดเข็มขัดนิรภัย ปรับไม่เกินจำนวน 2,000 บาท ซึ่งโทษเดิม ปรับไม่เกิน จำนวน 500 บาท ดังนั้นเพื่อเป็นการช่วยเหลือประชาชน ผู้ใช้รถใช้ถนน ให้เหมาะสมตามสภาพค่าครองชีพขั้นต่ำของประชาชน จึงร่วมกันเสนอแก้ไขพระราชบัญญัติจราจรทางบก พ.ศ..... ด้วยหลักการเหตุผล ดังนี้ โดยที่มีการแก้ไขเพิ่มเติมพระราชบัญญัติจราจรทางบก (ฉบับที่ 13) พ.ศ. 2565 ได้มีการเพิ่มอัตราโทษปรับในฐานความผิดต่าง ๆ เพิ่มขึ้นอีกประมาณสี่เท่าตัว ส่งผลกระทบต่อประชาชนอย่างกว้างขว้าง รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยกำหนดหลักการในการตรากฎหมายพึงกำหนดโทษอาญาเฉพาะความผิดร้ายแรง และนำผลการรับฟังความคิดเห็นของผู้เกี่ยวข้องมาตราเป็นกฎหมายในประเด็นเกี่ยวกับเงินรางวัลเบี้ยปรับจราจรเห็นว่าควรยกเลิกเบี้ยปรับจราจรแก่เจ้าหน้าที่ตำรวจ โดยนำเงินเบี้ยปรับส่งเป็นรายได้แผ่นดินทั้งจำนวน เพื่อจะได้มีเงินรายได้นำไปพัฒนาประเทศในด้านอื่น เช่น ด้านการศึกษา และกำหนดให้เงินเบี้ยปรับที่เกิดขึ้นในกรุงเทพมหานคร จังหวัดหรือองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นตกเป็นรายได้ของกรุงเทพมหานคร จังหวัดหรือองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นทั้งจำนวน ที่จะต้องมีภารกิจเกี่ยวกับการอำนวยการและการจัดการจราจร จึงจำเป็นต้องตราพระราชบัญญัตินี้ 2. บ่ายวันนี้ (24 พ.ย.65) จะมีการประชุมคณะ กมธ. การทหาร โดยคณะอนุ กมธ.ด้านการเสริมสร้างศักยภาพของกองทัพ ที่มีนายประเสริฐ จันทรรวงทอง เป็นประธาน ใน คณะ กมธ. การทหารจะเสนอให้คณะ กมธ. เชิญ ผู้บัญชาการทหารเรือ เข้ามาชี้แจงที่ประชุมในกรณี ที่มีการซื้อเรือดำน้ำของสาธารณรัฐประชาชนจีน ที่มีการส่งมอบล่าช้า และมีข่าวลือว่าจะมีการปรับTOR (ทีโออาร์) จากเรือดำน้ำเครื่องยนตร์เยอรมนี เป็นเครื่องยนตร์สาธารณรัฐประชาชนจีน ซึ่งจะทำให้ประเทศไทยเสียโอกาสที่จะได้ใช้เครื่องยนตร์ ที่มีคุณภาพสูงอย่างที่นานาประเทศใช้กัน |
|
|
สงวนลิขสิทธิ์โดย สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ๑๑๑๑ ถ.สามเสน แขวงถนนนครไชยศรี เขตดุสิต กรุงเทพฯ ๑๐๓๐๐
Call Center ๑๗๔๓ โทรศัพท์ ๐ ๒๒๔๒ ๕๙๐๐ โทรสาร ๐ ๒๒๔๒ ๕๙๙๐
e-Mail : webmaster@parliament.go.th [ คลิกดูแผนที่]
|
|
|
|