|
|
ห้องข่าว >> ภาพข่าว >> ภาพข่าวสภาผู้แทนราษฎร |
นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ ส.ส.พรรคไทยศรีวิไลย์ แถลงข่าวเกี่ยวกับโครงการเอกชนร่วมลงทุน ปทุมธานี - รังสิต ของการประปาส่วนภูมิภาค
๏ฟฝัน๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ 16 ๏ฟฝ.๏ฟฝ. 2566
|
วันพฤหัสบดีที่ 16 กุมภาพันธ์ 2566 เวลา 13.10 นาฬิกา ณ ห้องแถลงข่าว ชั้น 1 อาคารรัฐสภา นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ ส.ส.พรรคไทยศรีวิไลย์ แถลงข่าวเกี่ยวกับโครงการเอกชนร่วมลงทุน ปทุมธานี - รังสิต ของการประปาส่วนภูมิภาค ซึ่งเป็นเรื่องในการกำกับดูแลของ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย โดย พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา เคยชี้แจงในสภาผู้แทนราษฎรว่าจะไม่มีการแก้ไขสัญญาให้สิทธิการดำเนินการผลิตและจำหน่ายน้ำประปาของการประปาส่วนภูมิภาคตามโครงการเอกชนร่วมลงทุน ปทุมธานี - รังสิต ต่อไปอีก 20 ปี และปัจจุบันสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ได้มีหนังสือที่ ปช 0008/0093 ลงวันที่ 8 ก.ย. 65 ถึง รมว.มหาดไทย ให้ทบทวนการต่อสัญญาให้บริษัทเอกชนรายใดรายหนึ่งซึ่งอาจเป็นการเอื้อประโยชน์ให้เอกชน และยังมีหนังสือจากสำนักงานเลขาธิการคณะรัฐมนตรีที่ นร 0507/321 ได้ท้วงติงตามเอกสารของ ป.ป.ช. ไปยังกระทรวงมหาดไทย และในสัปดาห์หน้าจะมีการประชุมคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) เพื่ออนุมัติการดำเนินการแก้ไขสัญญาให้เอกชนมาดำเนินการผลิตน้ำประปา โดยเรื่องนี้ถือเป็นเรื่องใหญ่เนื่องจากหากให้มีการแก้ไขสัญญา รัฐจะเสียรายได้อย่างมหาศาล โดยปัจจุบันมีการซื้อน้ำประปา 400,000 ลิตรต่อวัน ในราคาประมาณ 13 บาท ซึ่งในข้อเสนอมีการลดราคาเหลือประมาณ 10 บาทต่อลูกบาศก์เมตร และขึ้นราคาร้อยละ 4 ทุกปี คือประมาณ 40 สตางค์ต่อปี โดยหากต่อสัญญาไปอีก 20 ปี แล้ว ค่าน้ำประปาโดยเฉลี่ยจะอยู่ที่ประมาณลูกบาศก์เมตรละ 14 บาท และมีการเพิ่มกำลังการผลิตจาก 400,000 ลูกบาศก์เมตรต่อวัน เป็น 500,000 ลูกบาศก์เมตรต่อวัน ดังนั้น รัฐจะสูญเสียเงินประมาณ 1,500 ล้านบาทต่อปี และใน 20 ปี จะสูญเสียเงินประมาณ 30,000 ล้านบาท ทั้งนี้ ทราบมาว่าการต่อสัญญาดังกล่าวมีนักการเมืองเข้าไปเกี่ยวข้องและเป็นคนสนิทของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี โดยอาจเป็นการเอื้อประโยชน์ จึงขอเรียนไปยังนายกรัฐมนตรีและ รมว.มหาดไทย ที่เคยได้กล่าวในสภาว่าจะไม่ต่อสัญญาหรือแก้ไขสัญญาฉบับนี้ ดังนั้น หาก สคร. หรือคณะรัฐมนตรีชุดปัจจุบันยังดำเนินการในเรื่องดังกล่าวและไม่เป็นไปตามคำท้วงติงของ ป.ป.ช. ตนจะใช้สถานะความเป็นหัวหน้าพรรค หลังจากที่ได้ลาออกจากการเป็น ส.ส. ในวันพรุ่งนี้ (17 ก.พ. 66) ดำเนินคดีกับคณะกรรมการ สคร. และหากนำเข้าสู่ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี ก็จะดำเนินคดีกับคณะรัฐมนตรี นายกรัฐมนตรี และ รมว.มหาดไทย ในความผิดตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ และจะแจ้งความกับกองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ และหากยังไม่เป็นผลก็จะยื่นต่อศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบต่อไป |
|
|
สงวนลิขสิทธิ์โดย สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ๑๑๑๑ ถ.สามเสน แขวงถนนนครไชยศรี เขตดุสิต กรุงเทพฯ ๑๐๓๐๐
Call Center ๑๗๔๓ โทรศัพท์ ๐ ๒๒๔๒ ๕๙๐๐ โทรสาร ๐ ๒๒๔๒ ๕๙๙๐
e-Mail : webmaster@parliament.go.th [ คลิกดูแผนที่]
|
|
|
|