|
|
ห้องข่าว >> ภาพข่าว >> ภาพข่าวสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ |
นายนรชิต สิงหเสนี และนายอุดม รัฐอมฤต โฆษกกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ แถลงข่าว
๏ฟฝัน๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ 20 ๏ฟฝ.๏ฟฝ. 2559
|
วันอังคารที่ ๒๐ ธันวาคม ๒๕๕๙ เวลา ๑๕.๓๐ นาฬิกา ณ บริเวณห้องโถง อาคารรัฐสภา ๑ นายนรชิต สิงหเสนี และนายอุดม รัฐอมฤต โฆษกกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ แถลงข่าวเกี่ยวกับความคืบหน้าการพิจารณาทบทวนร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมืองว่าคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.)ได้นำข้อคิดเห็นของประชาชนและภาคส่วนต่าง ๆ มาประกอบการพิจารณา ดังนี้ ๑. มาตรา ๙ หมวดการจัดตั้งพรรคการเมือง ยังคงหลักการเดิมว่าคนที่มีอุดมการณ์เดียวกันจำนวน ๕๐๐ คน สามารถจัดตั้งพรรคได้ ๒. ยืนยันเรื่องการกำหนดทุนประเดิมในการดำเนินกิจการพรรคการเมืองเช่นเดิมคือ ๑,๐๐๐,๐๐๐ บาท และให้ผู้ร่วมจัดตั้งจำนวน ๕๐๐ คนนั้น ต้องบริจาคเงิน จากเดิมคนละ ๒,๐๐๐ บาท และไม่เกินคนละ ๕๐๐,๐๐๐ บาทซึ่ง กรธ.ได้ปรับลดลงเหลือ ๑,๐๐๐ บาท และไม่เกิน ๓๐๐,๐๐๐ บาท ๓. กรธ.ได้แก้ไขเรื่องบทกำหนดโทษ ในส่วนของพรรคการเมืองที่ไม่ได้ดำเนินกิจกรรม ๔ ด้าน ตามมาตรา ๒๓ ได้แก่ ส่งเสริมให้ประชาชนและสมาชิกมีความเข้าใจที่ถูกต้องเกี่ยวกับการปกครองในระบอบประชาธิปไตย เสนอแนวทางในการพัฒนาหรือแก้ไขปัญหาต่าง ๆ ส่งเสริมการมีส่วนร่วมของประชาชน และส่งเสริมให้สมาชิกและประชาชนมีความสามัคคีปรองดองกัน ซึ่งเดิมนั้นได้กำหนดบทลงโทษว่าหากพรรคการเมืองใดไม่ปฏิบัติตาม ให้คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เสนอเรื่องไปยังศาลรัฐธรรมนูญ ให้มีคำสั่งยุบพรรค และให้เพิกถอนสิทธิการรับสมัครเลือกตั้งของคณะกรรมการบริหารพรรคการเมืองนั้น โดยในส่วนนี้ กรธ.ได้ปรับแก้ว่าในกรณีที่พรรคการเมืองไม่ได้ดำเนินการตามมาตรา ๒๓ และเมื่อ กกต. ได้แจ้งเตือนแล้วยังไม่ปฏิบัติตาม กกต.อาจลดจำนวนเงินจัดสรรให้พรรคการเมืองนั้นได้ตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไขที่ กกต.กำหนด ๔. ในส่วนของโทษประหารชีวิตนั้น กรธ.ยังยืนยันว่ายังเหมาะสมในบางกรณี อาทิ กรณีการซื้อขายตำแหน่งรัฐมนตรีหรือเทียบเท่า หรือตำแหน่งที่สร้างความเสียหายให้แก่ประเทศชาติ ๕. ยืนยันในมาตรา ๔๓ ห้ามมิให้นักการเมืองหรือผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง รับบริจาคจากผู้ใด เพื่อกระทำการหรือสนับสนุนการกระทำอันเป็นการบ่อนทำลายความมั่นคงของราชอาณาจักรหรือราชบัลลังก์ เศรษฐกิจของ ประเทศ หรือราชการแผ่นดิน หากผู้ใดฝ่าฝืนให้ระวางโทษจำคุกตั้งแต่ ๒ - ๑๐ ปี หรือปรับตั้งแต่ ๔๐,๐๐๐ ๒๐๐,๐๐๐ บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และให้ศาลเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง มีกำหนด ๕ ปี ๖. มาตรา ๔๔ การเรียกรับทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดเพื่อให้ได้ตำแหน่งทางการเมืองหรือการบริหารราชการหรือหน่วยงานของรัฐ กรธ.ยังยืนยันกำหนดให้ต้องระวางโทษจำคุกระหว่าง ๕ ๒๐ ปี หรือ จำคุกตลอดชีวิตหรือประหารชีวิต ทั้งนี้อยู่ในดุลยพินิจของศาล ๗. มาตรา ๓๒ ภายใน ๑ ปี นับแต่นายทะเบียนรับจดทะเบียนพรรคการเมือง ให้ดำเนินการให้มีสมาชิกจากเดิมจำนวนไม่น้อยกว่า ๕,๐๐๐ คน และให้เพิ่มเป็น ๒๐,๐๐๐ คน กรธ.ได้ปรับลดลงเหลือจำนวน ๑๐,๐๐๐ คน ภายใน ๔ ปี
๘. การส่งสำเนาทะเบียนสมาชิกพรรคการเมืองเท่าที่มีอยู่ให้กับ กกต.ภายใน ๓๐ วัน นั้นกรธ. ได้ปรับแก้เป็นให้แจ้งการเปลี่ยนแปลงสมาชิกที่แตกต่างจากที่ปรากฏในทะเบียนสมาชิกพรรคการเมืองให้นายทะเบียนทราบภายใน ๓๐ วัน สำหรับการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญดังกล่าว ขณะนี้ กรธ. กำลังพิจารณาบทเฉพาะกาล มาตรา ๑๒๑ |
|
|
|
|
|
สงวนลิขสิทธิ์โดยสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร |
ถนนประดิพัทธ์ แขวงพญาไท เขตพญาไท กรุงเทพฯ 10400 โทร. 0 2244 2500 |
อีเมล์ : webmaster@parliament.go.th เว็บไซต์ : http://www.parliament.go.th |
|
|
|
|
|
|
|